issuu
ยาคุมกำเนิดคืออะไร ?
ยาคุมกำเนิดเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ไปออกฤทธิ์ควบคุมไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ หากใช้ถูกต้องแล้ว จะมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 99%
ที่นิยมใช้มีอยู่สองประเภทคือ
monophasic หมายถึงยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเท่ากันในยาทั้ง 21 เม็ดในแผงเดียวกัน
multiphasic หมายถึงยาคุมกำเนิดที่ยาแต่ละเม็ด จะมีปริมาณฮอร์โมนไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงห้ามกินสลับเม็ดกันโดยเด็ดขาด ยาประเภทนี้จึงสะดวกในการกินน้อยกว่า และไม่เป็นที่นิยมเท่าประเภทแรก
นอกจากนี้ยังมียาคุมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนชนิดเดียว แต่ใช้เฉพาะในสตรีที่ให้นมบุตร ได้แก่ ยี่ห้อเอ๊กซ์ลูตอน/Exluton ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะยาคุมชนิด monophasic เท่านั้น ซึ่งมีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด
ยาคุมประเภท 28 เม็ด
ยาคุม 21 เม็ดแรก ประกอบด้วยฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการคุมกำเนิด สำหรับยาคุมที่เหลืออีก 7 เม็ด เป็นเม็ดแป้ง หรือยาบำรุงเลือดประเภทธาตุเหล็กมีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ลืมรับประทานยา
ยาคุมประเภท 21 เม็ด
ประกอบด้วยฮอร์โมนออกฤทธิ์จำนวน 21 เม็ด
วิธีรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
-
กินเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน หรือภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน
-
สำหรับยาคุมชนิด 21 เม็ด เมื่อกินครบ 21 เม็ด ให้หยุดยา 7 วัน แล้วเริ่มแผงใหม่
-
สำหรับยาคุมชนิด 28 เม็ด เมื่อกินครบ 21 เม็ด ให้กินเม็ดแป้งที่เหลือ 7 เม็ดต่อจนหมดจากนั้นให้เริ่มกินแผงใหม่ได้เลย
-
ข้อสำคัญคือ ให้กินตามกำหนดในบรรทัดข้างต้นโดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีประจำเดือนมาวันไหน หรือหมดวันไหน
-
ควรกินยาคุมในเวลาเดียวกันทุกวัน เช่น ให้กินก่อนนอน 3 ทุ่มของทุกวัน หรือ 7 โมงเช้าของทุกวัน
-
เดือนแรกที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ต้องคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยเสมอเป็นเวลาอย่างต่ำ 2 อาทิตย์ เพราะการกินยาคุมวันแรก ไม่ได้มีผลในการคุมกำเนิดทันที
-
ถ้าลืมกิน 1 เม็ด ก็ให้กินทันทีที่นึกได้ เช่น ลืมกินวันจันทร์ เช้าวันอังคารนึกได้ให้กินเลย แล้วกินอีกเม็ดก่อนนอน
-
ถ้าลืมกิน 2 เม็ด เช่น ลืมกินวันจันทร์กับวันอังคาร วันพุธ ให้กิน 2 เม็ด วันพฤหัสกินอีก 2 เม็ด วันศุกร์กิน 1 เม็ดตามปกติ
-
ถ้าลืมกินหลายวัน หยุดกิน และทิ้งยาคุมแผงนั้นไป ไม่เกิน 7 วันจะมีเลือดคล้ายประจำเดือนมา
-
จากนั้นให้เริ่มกินยาคุมแผงใหม่ในวันที่มีประจำเดือน แต่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
-
สำหรับคนที่มีปัญหาประจำเดือนขาด หรือมากะปริบกะปรอยระหว่างช่วง 7 วันที่หยุดยา(แบบ 21 เม็ด) หรือช่วงกินเม็ดแป้ง (แบบ28 เม็ด) ไม่ต้องกังวล เพราะอาจเกิดจากการปรับตัวของร่างกายขณะที่กินยาแผงแรก
-
สำหรับคนที่เคยกินยาคุมแผงแรก อาจมีผลข้างเคียงเช่น คัดเต้านม คลื่นไส้ หากมีอาการไม่มาก ให้กินยาคุมจนครบสามเดือน อาการเหล่านี้จะหายไปเอง
-
ถ้ามีผลข้างเคียงมากจนทนไม่ไหว ควรปรึกษาเภสัชกร เพื่อจะได้เลือกชนิดยาคุมฮอร์โมนต่ำ หรือสูงขึ้น ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไม่ควรเปลี่ยนยาคุมเอง ตามคำบอกของเพื่อนหรือคำแนะนำจากคนรู้จัก เพราะร่างกายแต่ละคนมีระดับฮอร์โมนแตกต่างกัน มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อยาคุมต่างกัน
สามารถรับประทานยาคุมกำเนิดได้นานแค่ไหน ?
ในหญิงอายุน้อย ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ ไม่มีประวัติเป็นโรคตับ สามารถใช้ได้นานถึง 10 ปีค่ะ อาจจะกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานถึง 4 ปี แล้วเว้นระยะเวลาพัก 3-4 เดือน หลังจากนั้นจึงเริ่มกินใหม่
สำหรับหญิงที่อายุมากกว่า 40 ปี หรือ อายุมากกว่า 35 ปี แต่มีประวัติไขมันในเลือดสูง และสูบบุหรี่จัด ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิด ?
ยาคุมกำเนิดแบบรับประทานมีข้อห้ามใช้ในกรณีผู้ที่เป็นโรคตับ มะเร็งเต้านมหรือ มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ คนที่มีประวัติไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือมีเลือดออกแบบผิดปกติทางช่องคลอด
ยาชนิดไหนบ้าง ที่มีอันตรกิริยากับยาคุมกำเนิด ?
ยาปฏิชีวะนะบางชนิด ยานอนหลับ ยากันชัก และยาโรคหอบ เพราะฉะนั้นหากมีโรคประจำตัว หรือต้องใช้ยาบางอย่างเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อน